บอสมิน พีชญา ดาราเบอร์ต้นๆ”แก๊งบอสหญิงดิไอคอน” Exclusive
1 min read

บอสมิน พีชญา ดาราเบอร์ต้นๆ”แก๊งบอสหญิงดิไอคอน” Exclusive

บอสมิน  พีชญาเป็นชาวอำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2532 เป็นบุตรคนที่ 2 ของสุพัฒน์ วัฒนามนตรี อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลน้ำพอง อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น และกาญจนา วัฒนามนตรี ครอบครัวของพีชญาประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โครงการหมู่บ้านจัดสรร และเป็นตัวแทนจำหน่ายวัสดุก่อสร้างครบวงจรรายใหญ่ในจังหวัดขอนแก่น พีชญามีพี่ชาย 1 คน ชื่อ วทัญญู วัฒนามนตรี (แม็กซ์)

พีชญาสำเร็จมัธยมศึกษาจาก โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น (ศึกษาศาสตร์) และเป็นนักกีฬาบาสเกตบอลหญิงประจำโรงเรียน เคยได้รับเหรียญทองจากกีฬาสาธิตสามัคคี ครั้งที่ 29 จามจุรีเกมส์ และเคยเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนโครงการ World Experience ณ Columbia Falls High School รัฐมอนแทนา สหรัฐอเมริกา เป็นเวลา 1 ปี ปัจจุบัน สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะศิลปศาสตร์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษธุรกิจ (Arts Business English) จาก มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เมื่อวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2557

 

บอสมิน มิน พีชญา วัฒนามนตรี ก้าวเข้าสู่วงการบันเทิง

พีชญาเข้าสู่วงการเมื่อ พ.ศ. 2549 จากการประกวด “มิสทีนไทยแลนด์ 2006” ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ขวัญใจสื่อมวลชน และ Miss I-Mobile หลังจากนั้นใน พ.ศ. 2552 พีชญาได้รับโอกาสในการเล่นละครพื้นบ้านเรื่อง ปลาบู่ทอง ซึ่งเป็นผลงานละครเรื่องแรกและสร้างชื่อเสียงให้เธอจากบทฝาแฝดเอื้อย-อ้าย ใน พ.ศ. 2553 จากความสำเร็จของผลงานละครพื้นบ้าน เธอจึงได้แสดงละครหลังข่าวเรื่อง เรือนซ่อนรัก เป็นเรื่องถัดมา และได้เป็นนางเอกละครหลังข่าวเรื่องแรกในเรื่อง รักในม่านเมฆ ซึ่งเป็นละครที่ได้รับอันดับความนิยมสูงสุดในปีนั้น

พ.ศ. 2553 พีชญาได้รับรางวัลดาราดาวรุ่งยอดนิยมจากหลายสถาบัน เช่น รางวัลดาวรุ่งมาแรงฝ่ายหญิง จากสยามดาราสตาร์อวอร์ด รางวัลดาวรุ่งหญิงฮอตแห่งปี จากทีวีอินไซด์ ฮอท อวอร์ด และรางวัลดาราดาวรุ่งมาแรง จากมายาป๊อปปูลาร์โหวต และเป็นที่รู้จักมากขึ้นจากการได้รับโอกาสในวงการบันเทิงอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านละคร ภาพยนตร์ มิวสิกวีดีโอ พรีเซนเตอร์โฆษณา และ งานถ่ายแบบนิตยสาร

เปิดใจ “มิน-พีชญา” ปัดโยงธุรกิจดิไอคอน-รับค่าจ้างแค่พีอาร์

กรณีประเด็นธุรกิจขายตรงของบริษัทชื่อดัง มีนักแสดงชื่อดังหลายคนเป็นพรีเซ็นเตอร์ และบางคนยังมีตำแหน่งในบริษัทดิไอคอน กรุ๊ป ซึ่งแม้ว่าผู้บริหารจะออกมายืนยันว่าดาราที่ปรากฎชื่อไม่เกี่ยวนั้น วันนี้ (11 ต.ค.2567) เมื่อเวลา 14.00 น.หลังถูกโยงเรียก “บอสมิน” ดารานักแสดงชื่อดัง “มิน” พีชญา วัฒนามนตรี ที่ชื่อเป็นผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร ในเครือดิไอคอนกรุ๊ป ตั้งโต๊ะแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงว่า ขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียหายที่เกิดขึ้น

มิน ระบุว่า เพิ่งร่วมงานกับบริษัทดิไอคอน เพียง 1 ปีจากที่เขาเปิดมาแล้ว 6 ปี ตลอดวันที่ก้าวมาร่วมงานได้รับข้อมูลเหมือนทุกคน ตรวจสอบว่าจัดตั้งถูกต้องและมีการทำผลิตภัณฑ์ที่ทดลองใช้ ไม่ใช่คนแรกที่มาร่วมงาน เพราะเมื่อเห็นข้อมูลก็ตรวจสอบ แต่ก็ยังโทษตัวเองว่าตรวจสอบไม่ดีทำให้เกิดความเสียหายกับประชาชนที่เรารัก และเรามีทุกวันนี้เพราะประชาชน และขอโทษ

นอกจากนี้ มิน ยอมรับว่าพยายามตรวจสอบอย่างรอบคอบ แต่ยังไม่พอและยอมรับว่าพลาด และตรวจแม้แต่เรื่องภาษีของบริษัท ตลอดที่อยู่ในวงการมา 20 ปีไม่เคยรับงานที่สุ่มเสี่ยง สีเทาหรือหมิ่นเหม่ที่จะทำให้ประชาชนเดือดร้อน และตัวเองก็มีธุรกิจของทางบ้านทั้งนี้ ทนายยืนยันว่า มิน เป็นผู้รับจ้างไม่ใช่ลูกจ้าง ในฐานะพรีเซนเตอร์ และพีอาร์ พร้อมนำสัญญาจ้างมาอ่านว่า เป็นผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาดออนไลน์เริ่ม 1 มี.ค.2566 และในข้อตกลงสัญญาถ้าไม่บอกสัญญาก็ทำต่ออีก 1 ปี นอกจากนี้ มิน ยังระบุอีกว่า เสียใจ และอยากแสดงความจริงใจกับผู้เสียหายและขอยุติสัญญากับดิไอคอนทั้งหมด ต้องเลือกข้างประชาชน ซึ่งหลังจากนี้จะรวบรวมพยานหลักฐาน และพร้อมกระบวนการยุติธรรม และจะเดินไปหาตำรวจเอง โหนกระแส

วีรกรรม “บอสมิน” เป็นแม่ข่ายมานานแล้ว วงในแฉคนอยู่เบื้องหลังชักชวนเข้าวงการขายตรง

ชาวโซเชียลจำนวนไม่น้อยแสดงความเห็นสงสาร “มิน พีชญา วัฒนามนตรี”หรือ มิน ที่มีชีวิตเป็นลูกคุณหนูบ้านรวย ต้องมาประสบชะตาชีวิตเป็นผู้ต้องหาในเรือนจำแบบนี้ ล่าสุดเพจ GET FILL ได้ออกมาเล่าวีรกรรม  ที่หลายคนมองว่า บอสมิน ดูใสๆ คงไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรใน THE iCON ที่ใช้วิธีหาลูกทีม ชักชวนคน โดยเพจดังกล่าวขอเล่าเพื่อเป็นอุทาหรณ์ หากใครเจอแบบนี้จะได้ระวังตัวอย่าหลงเชื่อ

“เรื่องนี้เกิดขึ้นกับตลกหญิง เขาได้บอกว่าใสๆ ไม่รู้เรื่องอะไรจริงๆ ก่อนที่จะมาเป็นดิไอคอน จริงๆ แล้วมินได้ทำธุรกิจที่คล้ายๆ แชร์ลูกโซ่แบบนี้มาก่อนแล้วตอนนั้นตลกดังกำลังวุ่นกับการเปิดร้าน อยู่ๆ มีเบอร์สวย เบอร์มังกรโทร.เข้ามา ก็คิดว่าคงจะเป็นคนใหญ่โตโทร.เข้ามา พอรับเสียงในสายก็พูดว่าฮัลโหลนี่มินนะคะ พี่มาบ้านมินก่อนได้ไหมคะ จอดรถไว้หน้าบ้านนะคะ เดี๋ยวมินจะให้รถกอล์ฟไปรับ แล้วก็ต่อว่าขอโทษนะคะพี่ตลกดังขับรถอะไรมาเอ่ย ตลกดังก็บอกว่าพี่ขับรถโตโยต้ามา จากนั้นนางก็ถามสารทุกข์สุกดิบ ทำชวนคุย

จากนั้นก็บอกว่ามินขอเข้าเรื่องเลยแล้วกันนะคะ จากนั้นนางก็เอาลิสต์รถหรูมาเปิด 70 กว่าคัน พี่คะ พี่ดูรถหรูในลิสต์ พี่ชอบคันไหน ตลกก็บอกพี่ไม่รู้เหมือนกันพี่ไม่รู้จักรถหรูเลย นางเอกก็บอกว่าพี่ไม่รู้จักจริงๆ เหรอคะ นางเอกก็ถาม ขอโทษนะคะบ้านพี่มีรถกี่คัน ที่บ้านไม่มีรถหรูเลยเหรอ เอาใหม่ ไม่เป็นไร ตอนนี้พี่มีเงินเก็บถึง 500 ล้านหรือยังคะ ตลกบอกยังมีไม่ถึง นางเอกถามต่อ แล้วมันพอรึยังสำหรับที่พี่มีแค่นี้ ตลกดังตอบกลับไปว่าแค่มีกินมีใช้ก็พอแล้วคะน้องมิน ไม่เป็นไรค่ะ งั้นมินจะทำให้พี่รวยเอง แล้วก็เปิดปิระมิดขึ้นมา

แล้วก็บอกพี่คะ ดูนะคะ อันนี้คือมิน อันนี้คือพี่นะคะ พี่เห็นข้างล่างไหม พี่ช่วยหาคนให้มินอีก 200 คนได้ไหม แล้วพี่ก็จะรวย เขาบอกพี่เป็นคนอีสาน มีคนรักเยอะแน่เลย พี่น่าจะทำงานและหาคนได้มากกว่ามินตลกดังเห็นนางเอกฉีกผลิตภัณฑ์แล้วก็กิน ตลกดังก็บอกอันนี้แม่พี่กิน นางเอกก็เลยบอกงั้นพี่ก็สมัครสมาชิกไปเลยสิคะ 20,000 กว่าบาท

สมัครสมาชิกไปเลยสิคะ เดี๋ยวมินจะให้คนส่งของไปให้ที่บ้าน นางเลยคิดก็ซื้อไปให้พ่อให้แม่กินจะได้จบๆ ไปแยกย้ายกันแล้ว ก็มีเบอร์ผู้ช่วยเจ้าเดิมที่ติดต่อมา ก็จิกเป็นไก่เลย คุณทำงานรึยัง คุณหาคนให้ได้รึยัง ตลกดังก็รำคาญ จะทำงาน โทร.จิกไม่เป็นอันทำงาน เขาก็เอะใจไง ทำไมถึงจะอยากให้กูรวยอะไรนัก ก็โชคดีที่ตลกดังไหวตัวทัน

 

บอสมิน

ราชทัณฑ์เผย ญาติ 3 บอสหญิงเข้าเยี่ยมวันแรก ”บอสมิน“ เริ่มปรับตัวได้

ส่วนของบอสมินนั้น นางกนกวรรณ เปิดเผยว่า ไม่มีการร้องขออะไรเป็นพิเศษ เรื่องความเครียดสามารถปรับตัวได้ดีขึ้น แต่ไม่ถึงกับปกติทั้งหมด เพราะการเข้ามาอยู่ตรงนี้ต้องใช้เวลาปรับตัว โดยระหว่างนี้ ทนายความสามารถเข้ามาเยี่ยมได้ทุกวันและไม่จำกัดเวลา ส่วนทางญาติจะสามารถเข้าเยี่ยมได้วันละ 1 ครั้ง ครั้งละ 15-20 นาที หรือจองเยี่ยมญาติออนไลน์ผ่านทางวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ได้เดือนละ 1 ครั้ง โดยวันนี้ก็มีญาติทั้งหมด 3 คนติดต่อเข้ามาเยี่ยมผู้ต้องขัง ซึ่งตนเองขอไม่แจ้งว่าเป็นใคร เพราะจะกระทบกับสิทธิ์ของผู้ต้องขัง โดยคนที่ติดต่อเข้ามาเยี่ยมเป็นพ่อแม่หรือคนใกล้ชิด

สำหรับการดูแลผู้ต้องหาระหว่างพิจารณาคดี นางกนกวรรณ เปิดเผยว่า จะมีความแตกต่างกับการดูแลผู้ต้องขังเด็ดขาด ทั้งเรื่องกายภาพ จะมีการแยกกันอยู่ ไม่ปะปนกัน และผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดีผู้หญิงสามารถไว้ผมยาวได้ เพียงแต่ให้มัดรวบเรียบร้อย หรือ หากร้อนและอยากตัดผมก็สามารถตัดได้เช่นกัน นอกจากนี้ มีสิทธิ์ในการพบทนายความเพื่อเตรียมต่อสู้คดีได้อย่างเต็มที่ ซึ่งตลอด 5 วันที่ผ่านมา ยังไม่มีหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องติดต่อเข้ามาสอบปากคำผู้ต้องหาในคดีนี้

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *