แอม ไซยาไนด์ ญาติเหยื่อเผย สาสมแล้ว! โทษประหารชีวิต
1 min read

แอม ไซยาไนด์ ญาติเหยื่อเผย สาสมแล้ว! โทษประหารชีวิต

จากกรณีที่ศาลอาญาอ่านคำพิพากษา แอม ไซยาไนด์ อดีตสามีนายตำรวจ และทนายพัช คดีวางยาฆ่าผู้อื่นที่ใส่สารไซยาไนด์ ฆ่าเพื่อนชิงทรัพย์ โดยพนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 5 และมารดาผู้เสียชีวิตร่วมกันเป็นโจทก์ฟ้อง พร้อมเรียกค่าเสียหาย 30 ล้านบาท

โดยศาลตัดสินให้ ประหารชีวิต แอม ไซยาไนด์ ฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ส่วนจำเลยที่ 2 และ 3 มีความผิดฐานช่วยไม่ให้ผู้กระทำผิดรับโทษ, ซ่อนเร้นหลักฐาน จำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา แต่จำเลยที่ 2 ให้การเป็นประโยชน์ลดโทษ เหลือ 1 ปี 4 เดือน

 

แอม ไซยาไนด์

ย้อนรอยคดี  แอม ไซยาไนด์ พบเหยื่อ 15 ราย

จุดเริ่มต้นของคดีนี้มาจากเมื่อวันที่ 14 เม.ย. 2566 นางสาวศิริพร ขันวงษ์ หรือก้อย ได้เสียชีวิตปริศนาริมท่าน้ำใน อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี จากการสืบสวนพบว่า วันเกิดเหตุ ก้อยได้ไปทำบุญปล่อยปลากับแอม แล้วเกิดอาการวูบหมดสติเสียชีวิต แต่แอมกลับไม่ช่วยอะไรก่อนจะหยิบทรัพย์สินแล้วหลบหนีไป ถือว่ามีพฤติกรรมพิรุธ

ต่อมา ตำรวจ สภ.บ้านโป่ง เรียกตัว แอม เข้ามาแจ้งข้อกล่าวหา ฐานลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ แต่แอมให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และขอประกันตัว จนได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ส่วนทางฝั่งญาติของก้อยได้เข้าร้องเรียนกับตำรวจกองบังคับการปราบปรามถึงเงื่อนงำในคดีนี้ ขณะเดียวกันได้มีญาติของผู้เสียชีวิตรายอื่นๆ ได้เข้ามาให้ข้อมูลกับตำรวจเพราะสงสัยว่า แอมอาจจะมีส่วนรู้เห็นกับการตาย เนื่องจากผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในละแวกจังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี และนครปฐม ทุกคนรู้จักกับแอม และแอมก็เป็นคนสุดท้ายที่อยู่ด้วยตลอด

เหตุการณ์ก่อนเสียชีวิตจะคล้ายกับก้อย คือแอมจะชักชวนไปทำบุญ กินข้าว จากนั้นเหยื่อที่ไปด้วยจะเสียชีวิตระหว่างทางกลับบ้าน บางรายก็กลับมาเสียชีวิตที่บ้าน ตำรวจจึงนำหมายจับศาลอาญาไปรวบตัวแอมในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ซึ่งแอมให้การปฏิเสธ

 

โหนกระแส 

ตำรวจขยายผลพบ แอม ไซยาไนด์ มีพฤติการณ์วางยาเหยื่อทั้งหมด 15 ราย

1.นางสาวมณฑาทิพย์ (ทราย) ชาว จ.กำแพงเพชร เดินทางกลับจากต่างประเทศ โดยมีแอมอาสาเป็นคนขับรถไปรับที่สนามบิน ก่อนจะเสียชีวิตด้วยอาการหัวใจล้มเหลว เมื่อวันที่ 7 ก.ค. 2558 ที่กรุงเทพมหานคร

2.นางสาวนิตยา (นิด) เป็นโฟร์แมนคุมงาน เสียชีวิตจากระบบไหลเวียนโลหิตและการหายใจล้มเหลว เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2563 ที่บ้านพักใน ต.โพรงมะเดื่อ อ.เมือง จ.นครปฐม โดยพบว่าผู้เสียชีวิตเป็นคนค้ำประกันเงินกู้ให้กับแอม และแอมเป็นคนสุดท้ายที่อยู่ด้วยในคืนนั้น

3.นางสาวสาวิตรี (หนิม) ภรรยานายดาบตำรวจ ตม.บึงกาฬ เป็นเจ้าหนี้ของแอมหลักแสนบาท เสียชีวิตด้วยอาการหัวใจล้มเหลว เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2563 หลังกินยาลดความอ้วนที่ได้รับจากแอม

4.นางสาวดาริณี (ฟ้า) เสียชีวิตเมื่อ 13 ธ.ค. 2563 จากอาการกล้ามเนื้อหัวใจผิดปกติ ในพื้นที่ สภ.สามพราน จ.นครปฐม ทรัพย์สินสูญหาย 6 หมื่นบาท

5.นายสุรัตน์ (บี) เสียชีวิตด้วยสาเหตุหลอดเลือดหัวใจตีบ เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2564 ที่บ้านพักในพื้นที่ ต.ท่าไม้ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี โดยขณะเสียชีวิตพบเงินจากบัญชีธนาคารของนายบี จำนวน 60,000 บาท ถูกโอนเข้าบัญชีธนาคารของแอม

6.นายสาโรจน์ (กบ) พ่อค้าขายหมู แฟนเก่าของแอม ติดเชื้อในกระแสเลือดเสียชีวิตใน อ.นครไชยศรี จ.นครปฐม เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2565 ทั้งคู่ทำธุรกิจปล่อยเงินกู้ร่วมกัน ผลชันสูตรพบสารไซยาไนด์ในร่างกาย หลังไปกินข้าวมันไก่กับแอม

7.ร.ต.อ.หญิงกานดา (นุ้ย) เสียชีวิตด้วยอาการระบบไหลเวียนโลหิตและระบบหายใจล้มเหลว ในพื้นที่ สภ.เมืองนครปฐม เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2565 โดยพบว่าผู้กองนุ้ยร่วมวงแชร์กับแอมจำนวน 100,000 บาท

8.นางสาวรสจินทร์ (เจ๊น้อยขายผัก) เสียชีวิตด้วยสาเหตุเลือดเป็นกรด เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2565 ที่ตลาดมหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร และพบว่าเป็นอีกคนที่ร่วมวงแชร์ 100,000 บาท กับแอม

9.นางจันทร์รัตน์ เสียชีวิต เสียชีวิตด้วยอาการหัวใจวายเฉียบพลัน ระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2565 ที่บ้านพักในพื้นที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี และมีประวัติร่วมลงทุนปล่อยเงินกู้กับแอม 70,000 บาท

10.นางมณีรัตน์ (ครูต่าย) เสียชีวิตด้วยสาเหตุเส้นเลือดหัวใจตีบเฉียบพลัน เมื่อวันที่ 10 ก.ย. 2565 พบว่าก่อนเสียชีวิต แอมได้โทรศัพท์และนัดเจอกับครูต่ายที่ ตลาดบน-ตลาดล่าง พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม

11.นางสาวกะณิกา (เอ๊ะ) เสียชีวิตจากอาการเลือดออกในสมอง เมื่อวันที่ 12 ก.ย. 2565 ใน จ.ราชบุรี ช่วงเสียชีวิต พบว่าเงินในบัญชีธนาคารถูกถอนออกไป 300,000 บาท โทรศัพท์มือถือ สร้อยคอ และสร้อยข้อมือทองคำสูญหาย

12.นางสาวผุสดี (ครูอ๊อด) ระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว เสียชีวิตเมื่อวันที่ 20 พ.ย. 2565 ในบ้านพัก ต.ลำบัว อ.ดอนตูม จ.นครปฐม โดยพบว่า ร่วมวงแชร์ 100,000 บาท กับแอม

13.นายสุทธิศักดิ์ (แด้) สามีใหม่ และเป็นพ่อเด็กในท้องของแอม เสียชีวิตด้วยสาเหตุหัวใจเต้นผิดจังหวะ เมื่อวันที่ 12 มี.ค. 2566 ที่บ้านพักใน ต.สามพร้าว อ.เมือง จ.อุดรธานี ทรัพย์สินสูญหายมีสร้อยคอทองคำ สร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนัก 8 บาท พระเครื่องมูลค่า 1 แสนบาท และเงินสดอีกจำนวนหนึ่ง

14.พ.ต.ต.หญิงนิภา (สารวัตรปู) เสียชีวิตจากอาการระบบไหลเวียนโลหิตและระบบหายใจล้มเหลว เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2566 ใน จ.นครปฐม พบเงินในบัญชีถูกถอน 140,000 แสนบาท และเงินสดอีก 10,000 บาท

15.นางสาวศิริพร (ก้อย) หัวใจล้มเหลวเสียชีวิตใน อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เมื่อวันที่ 14 เม.ย.2566 ขณะเดินทางไปทำบุญปล่อยปลากับแอม

นอกจากนี้ มีผู้รอดชีวิต 1 ราย คือ นางกานติมา (ปลา) ภรรยาตำรวจ เป็นเจ้าหนี้ของแอมจำนวน 250,000 บาท เหตุเกิดเมื่อเดือน ก.ย. 2565 ที่ห้างแห่งหนึ่ง จ.กาญจนบุรี

 

 

แอม ไซยาไนด์ ถูกแจ้งข้อหาอะไรบ้าง

วันที่ 30 มิ.ย. 2566 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. (ในขณะนั้น) ได้แถลงสรุปคดี แอม ไซยาไนด์ ผู้ต้องหาวางยาฆ่าเจ้าหนี้ 15 คดี ในพื้นที่ 8 จังหวัด เหตุเกิดต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2558 มาจนถึงปี 2566 โดยตำรวจสอบปากคำพยานถึง 900 ปาก และมีเอกสารเกี่ยวกับคดี 26,500 แผ่น ก่อนจะตั้งข้อหา ดังนี้

• พยายามฆ่าผู้อื่น

• ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนฯ

• ชิงทรัพย์โดยเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

• ปลอมปนอาหาร ยา หรือเครื่องอุปโภค บริโภคอื่นใด เพื่อบุคคลอื่นเสพหรือใช้

• การปลอมปนนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

• ปลอม และใช้เอกสารปลอมฯ รวมกว่า 75 ข้อหา ส่งให้พนักงานอัยการ

 

 

นายตำรวจอดีตสามี และทนายพัช เกี่ยวข้องกับคดีนี้อย่างไร

จากการสอบสวนพบว่า แอมใช้รถคันหนึ่งร่วมกับ พ.ต.อ.วิฑูรย์ สามีเก่าที่เป็นผู้กำกับ โดยหน้ารถมีไซยาไนด์ปนเปื้อนอยู่จึงต้องสงสัยว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิต จนมีการออกหมายจับ 3 ข้อหา คือ ร่วมกันยักยอกทรัพย์, ร่วมกันฉ้อโกง, ปลอมแปลงเอกสาร ก่อนที่ศาลอาญาจะตัดสินว่า จำเลยที่ 2 ได้นำหลักฐานสำคัญซึ่งเป็นกระเป๋าของกลางไปส่งให้กับจำเลยที่ 1 แทนที่จะนำไปให้พนักงานสอบสวน

ส่วน นางสาวธัญนิชา (ทนายพัช) จำเลยที่ 3 ในฐานะเป็นทนายความที่จำเลยที่ 1 ให้ความเชื่อถือ ได้ยุยงให้จำเลยที่ 1 ปกปิดกระเป๋าของกลางในคดี เพื่อเป็นแนวทางในการชนะคดี ประกอบกับส่งคำพิพากษาของศาลฎีกาของคดีอื่นที่ชนะคดีได้โดยไม่มีของกลางให้จำเลยที่ 1 และ 3 อ่านในกลุ่มไลน์ที่สร้างขึ้น จากพยานและหลักฐานของโจทก์และโจทก์ร่วมมีน้ำหนัก

ดังนั้น ศาลจึงพิพากษาประหารชีวิตจำเลยที่ 1 ฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน จำเลยที่ 2 และ 3 มีความผิดฐานช่วยไม่ให้ผู้กระทำผิดรับโทษ, ซ่อนเร้นหลักฐาน จำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา แต่จำเลยที่ 2 ให้การเป็นประโยชน์ลดโทษ เหลือ 1 ปี 4 เดือน

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *